Skip to main content
บ้าน /
Articles /
5 วิธีบริหารสต็อกสินค้ายังไงไม่ให้ค้างหมดอายุ
5 วิธีบริหารสต็อกสินค้ายังไงไม่ให้ค้างหมดอายุ
HIGHLIGHTS
การทำสต็อกสินค้าทำให้เราสามารถมองเห็นสินค้าทั้งหมดของธุรกิจในปัจจุบัน และทำให้เรารู้วิธีการจัดการสต็อกสินค้ารอบใหม่ควบคู่ไปกับสินค้าที่ขายไปแล้ว
การนับสต็อกเป็นประจำจะช่วยให้คุณรู้ว่า สินค้าตัวไหนขายดี ควรสต็อกของเพิ่ม หรือตัวไหนขายไม่ค่อยดีลดจำนวนสินค้าลง จะช่วยให้คุณบริหารสต็อกได้เป็นระบบมากขึ้น
FIFO – ซื้อสินค้าไหนมาก่อน ก็ต้องขายสินค้านั้นไปก่อน เพื่อให้สินค้าสต็อกค้างน้อยที่สุด และเหมาะสำหรับสินค้าที่มีวันหมดอายุหรือเน่าเปื่อยได้
ปัญหาสินค้าค้างสต็อก สินค้าหมดอายุ สินค้าหาย สามารถแก้ไขได้ด้วยการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ดีและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณไม่ต้องเอาเงินไปจมกับการเตรียมสต็อกสินค้าเกินความจำเป็น และช่วยเพิ่มยอดขายด้วยการสต็อกสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งวันนี้ ร้านติดดาวเราได้มี 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารคลังสินค้าไม่ให้ของค้างสต็อก มาฝากกัน
การทำสต็อกสินค้าคืออะไร?
การทำสต็อกสินค้าทำให้เราสามารถมองเห็นสินค้าทั้งหมดของธุรกิจในปัจจุบัน และทำให้เรารู้วิธีการจัดการสต็อกสินค้ารอบใหม่ควบคู่ไปกับสินค้าที่ขายไปแล้ว เมื่อเราจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้เรามีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที และยังสามารถลดต้นทุนในการตุนสินค้าเอาไว้อีกด้วย
ทำไมเราต้องทำสต็อกสินค้า?
หากเราไม่มีการจัดการสต็อกสินค้าที่เป็นระเบียบจะมีอีกหลายปัญหาเข้ามา อย่างสินค้าค้างสต็อก สินค้าหมดอายุเพราะขายไม่ได้ สินค้าขาดไม่พอต่อความต้องการของลูกค้า
5 วิธีบริหารสต็อกสินค้า
1.การนับสต็อกสินค้าเป็นประจำ
การนับสต็อกเป็นประจำจะช่วยให้คุณรู้ว่า สินค้าตัวไหนขายดี ควรเติมของเพิ่ม หรือตัวไหนขายไม่ค่อยดี ต้องลดจำนวนสินค้าลง จะช่วยให้คุณบริหารสต็อกได้เป็นระบบมากขึ้น
2.ทำบันทึกการซื้อขายสินค้า
การทำบันทึกการซื้อขายสินค้านั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำควบคู่ไปกับการนับสต็อก สำหรับรายการที่ขายออกไปในแต่ละวัน แต่หากใครที่มีงบประมาณขึ้นมาหน่อย สามารถมองหาระบบเข้ามาช่วยในการบริหารสต็อกอย่างเครื่อง POS
3.ใช้เทคนิคการจัดสต็อกแบบ FIFO
FIFO ย่อมาจากคำว่า First In First Out ซื้อสินค้าไหนมาก่อน ก็ต้องขายสินค้านั้นไปก่อน เพื่อขายสินค้าที่ผลิตก่อนออกไปก่อน และเหมาะสำหรับสินค้าที่มีวันหมดอายุหรือเน่าเปื่อยได้ เช่น วัตถุดิบอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เป็นต้น
4.จัดวางสต็อกสินค้าให้เป็นระเบียบ
นอกจากการจัดเรียงสินค้าหน้าร้านให้เป็นระเบียบสวยงามแล้ว การจัดวางสต็อกสินค้าหลังบ้านก็ต้องทำให้เป็นระเบียบด้วยเช่นกัน เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นเวลาหยิบไปเติมบนชั้น และป้องกันสินค้าหายหาไม่เจอ
5.คำนวณระยะเวลาในการจัดส่งสินค้า
การคำนวณและบริหารเวลาในการสั่งสินค้าคือ การสั่งซื้อสินค้าเราต้องคำนวณว่าสินค้านั้นต้องใช้เวลาในการจัดส่งกี่วัน จะช่วยให้เราสามารถบริหารสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อความต้องการของลูกค้า การบริหารสต็อกสินค้าที่ดีช่วยให้คุณสามารถบริหารเงินหมุนเวียนในร้านได้ดีมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องนำเงินทุนไปจมกับการสต็อกสินค้าที่ขายได้น้อย และช่วยให้คุณมองเห็นว่าสินค้าประเภทไหนที่ขายดี คุณก็สามารถมองหาสินค้าที่ลูกค้าต้องการมาขายเพิ่ม เพื่อเพิ่มยอดขายของร้านให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
แหล่งที่มา